ชีสสสสสสสสส
เวลาพูดแล้วลากเสียงยาวๆ จินตนาการถึงชีสเยิ้มๆ ยาวยืดที่กินแล้วอบอวลไปด้วยความหอม โอย แค่พิมพ์ก็หิวอีกแล้ว
ชีสมีทั้งไขมันและเกลือ แต่ช้าก่อน! มันยังเป็นแหล่งของแคลเซียมอีกด้วยนะเธอ!!การที่เราจะใส่ชีสขูดฝอยซักออนซ์ (~5 ขีด) ในอาหารเช้า ไม่ได้หมายความว่าร่างกายเราจะได้อันตรายนะ เราขอแนะนำ เชดดาร์ชีสแบบแข็งเป็นพิเศษ (Extra-sharp) เพราะจะช่วยให้เพื่อนๆ อิ่มได้มากที่สุด
มื้ออาหารที่ใส่เชดดาร์ชีสแบบ Extra-sharp มื้อหนึ่ง จะให้แคลอรี่ประมาณ 115 แคลอรี่และแคลเซียม 119 มิลลิกรัมซึ่งปริมาณที่แนะนำสำหรับสาวๆ ทุกคนคือปริมาณแคลเซียม 1000 มิลลิกรัม/วัน โอ้โหววว กินมื้อนี้มื้อเดียวก็ได้ไป 100 กว่ามิลลิกรัมแล้ว เยอะสุดๆ!
ในความจริงเพื่อนๆ จะเลือกชีสแบบไหนก็ได้นะคะ แต่จะบอกว่าแบบธรรมดาและแบบ Fat-free ก็ให้ผลลัพธ์ที่คล้ายๆ กัน เลือกกิน Fat-free เพราะเชื่อว่าจะอ้วนน้อยกว่านี่ ไม่เป็นความจริงเลยน้าาา
ถั่ว เป็นอาหารที่มีกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ มีสารลดการอักเสบ และสามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้ด้วย แต่เพราะเจ้าถั่วนี้มีจำนวนแคลอรี่ค่อนข้างสูง ทำให้คนส่วนมากที่ต้องการลดน้ำหนักเลี่ยงที่จะไม่กินมัน
การกินถั่ว เช่น ถั่วพิสทาชิโอ (เป็นถั่วที่กินแล้วมันมาก กินแล้วหยุดมือแทบไม่ได้เลย 5555) ซึ่งส่วนมากมักมาทั้งเปลือก ซึ่งบางทีการต้องมานั่งแกะเปลือกอยู่ก็ทำให้เราจดจ่อกับปริมาณได้เหมือนกันนะ (ยกเว้นผู้เขียน /ขอหัวเราะอีกรอบ) ถั่วพิสทาชิโอ 30 เมล็ดจะให้แคลอรี่ประมาณ 100 แคลอรี่ ก็ไม่ถือว่ามากนะสำหรับขนมที่เราไว้กินตอนว่างๆ อิอิ
ถ้าเป็นแต่ก่อน พอพูดถึงไข่แดง เพื่อนๆก็คงแย้งว่า "อ๋า..มันคอเรสเตอรอลสูงจะตาย กินไข่ขาวดีกว่ามั้งงงงง" แต่ตอนนี้ต้องบอกเลยว่า 'กินได้แล้วค่า' เพราะได้มีผลวิจัยตัวใหม่ออกมาแล้วว่าการกินไข่แดงไม่ได้เพิ่มอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจแต่อย่างใด มากไปกว่านั้นไข่แดงยังเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ และช่วยให้เพื่อนๆ อิ่มท้องได้ด้วย
ไข่ 1 ฟองจะมีโปรตีนถึง 6 กรัมและไขมัน 5 กรัม โดยส่วนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อจะเป็นส่วนของไข่ขาวค่ะ (ไข่ขาวให้พลังงาน 17 แคลอรี่เท่านั้น)
ถึงแม้ว่าบางคนจะกลัวว่าเจ้าน้ำมันตัวนี้จะมาขัดขวางการลดน้ำหนักของคุณ แต่อยากบอกเลยว่าคิดผิด! การกินน้ำมันมะกอกช่วยให้น้ำหนักเราลดน้อยลงอย่างมีประสิทธิภาพเชียวนะ!!
เพราะในน้ำมันมะกอกนั้นมี 'ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว' (monounsaturated fat) อยู่ มีส่วนช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มได้นานขึ้นค่ะ
ลองใส่น้ำมันมะกอกซักช้อนโต๊ะหนึ่งลงในสลัดหรือใช้ปรุงอาหารดูสิ รับรองว่าจะได้พลังงาน 119 แคลอรี่ที่คุ้มค่ามากกกกกก
เรามักจะได้ยินว่า กินดาร์กช็อกโกแลตดีกว่าช็อกโกแลตนมเยอะ เพราะช็อกโกแลตนมจะมีความหวานมากกว่า แต่สำหรับคนที่รักการกินช็อกโกแลตนมรสนุ่มนวลหวานลิ้นแสนอร่อย บอกเลยว่ามีข่าวดี!
แม้ช็อกโกแลตนมจะไม่มีสารแอนตี้ออกซิเดนท์และสารอาหารสูงเท่าแบบดาร์ก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย การที่น้ำหนักของเพื่อนๆ จะเพิ่มหรือลดเนี่ยมันเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินอาหารต่างหาก ดังนั้นถ้าเรามีแผนการไดเอ็ทที่เคร่งครัดพอ จะมากินช็อกโกแลตนมซักชิ้นสองชิ้นต่อสัปดาห์ ไม่สะเทือนหรอก /กำช็อกโกแลตเข้าปาก
กล้วย นี่ถือเป็นอาหารตัวหนึ่งที่เหมาะแก่การเพิ่มลงในเมนูลดน้ำหนักมากๆ เลยนะคะ กล้วยไซส์กลางจะมีใยอาหารถึง 3 กรัม และโพแทสเซียม 422 มิลลิกรัม ให้พลังงานค่อนข้างเยอะเหมือนกันนะเนี่ย
ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ลองกินคู่กับถั่วพีนัทหรือกรีกโยเกิร์ต คาร์โบไฮเดรตในกล้วยเข้าขากันได้ดีมากกับโปรตีนและไขมัน การกินเมนูนี้จะทำให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานช้าลง และช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วยนะ
ยินดีด้วยยยยย!!!! เพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องตัดขาดแป้งออกจากชีวิตแล้ว!! เรายังสามารถกินมันได้อยู่นะ ปัญหาข้อสำคัญที่จะทำให้เรากินแป้งแล้วอ้วนก็คือ มันดันอร่อยจนหยุดกินไม่ได้นี่แหละ...
ถ้าเราอยากกินขนมปังหรือพาสต้าอร่อยๆ ซักจาน ก็เลือกแบบโฮลเกรนสิคะ เพราะใยอาหารและโปรตีนจะทำให้เราอยู่ท้องไปอีกนานนน เลยล่ะ
เจ้ามันฝรั่งน้อยน่าสงสารไม่ได้เป็นปีศาจเพิ่มน้ำหนักแบบที่เพื่อนๆคิดกันนะคะ! เพียงแค่อย่ากินมากเกินไปแค่นั้นเอง... ทำไมทุกคนถึงยี้เจ้ามันฝรั่งน่ะหรือ? ก็เพราะมันมีดัชนีน้ำตาลที่ไม่น้อยเหมือนอาหารอื่นๆ ทำให้คนคิดไปว่ามันจะต้องมีผลต่อน้ำตาลในเลือดแน่ๆ
แต่การกินมันฝรั่งกับท้อปปิ้งอย่างเนยหรือกรีกโยเกิร์ต (ซึ่งล้วนมีไขมัน) จะทำให้ร่างกายดูดซึมคาร์โบไฮเดรตจากมันฝรั่งช้าลงและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคน้ำตาลในเลือดสูงด้วยนะ
ผลการวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าเจ้าผลไม้ลูกเขียวๆ ที่อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวนี้ช่วยลดความอยากอาหารของเราลงเยอะมากๆ แต่เพราะมันมีแคลอรี่ที่สูงจึงทำให้เราไม่ควรกินในปริมาณเยอะๆ
ตราบใดที่คุณควบคุมจำนวนการกินได้ การกินอะโวคาโดนี้ก็ทำได้อย่างอิสระเลยยย ไม่ว่าจะเป็นปาดหน้าขนมปังหอมๆ แล้วกิน เพิ่มเป็นท้อปปิ้งบนซุปอุ่นๆ หรือทำสมูทตี้สีเขียวอร่อยๆกินซักแก้ว โดยอะโวคาโดลูกหนึ่งจะให้พลังงานประมาณ 125 แคลอรี่
ถ้าเพื่อนๆ ไม่ใช่ผู้ที่เซนซิทีฟต่อกลูเตน หรือแพ้กลูเตน ( กลูเตนหรือ Gluten คือ โปรตีนที่พบในธัญพืชบางชนิด เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ) ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ควรจะตัดเจ้าสิ่งนี้ออกจากเมนูไดเอ็ทของเพื่อนๆ นะ
ผลิตภัณฑ์อาหารแบบ Gluten-free จะมีสารอาหารที่น้อยกว่าแบบธรรมดา ดังนั้นถ้าจะกินก็กินอาหารที่มี Gluten เหมือนเดิมก็ไม่เป็นอะไรหรอกนะ
อาหารแต่ละชนิดที่เขียนถึงมีแต่อาหารที่คิดว่าควรจะหลีกเลี่ยงเพราะไขมันสูงทั้งนั้น แต่ถ้าเราควบคุมปริมาณ ไม่กินมากจนเกินไป รับรองว่าน้ำหนักเพื่อนๆ ไม่มีขึ้นแน่นอน
ข้อมูล by https://sistacafe.com/
ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้านะครับ by alinapizza hatyai